ทักษะในการเล่นวอลเลย์บอล
การเล่นกีฬาวอลเลย์บอลมีทักษะส่วนบุคคลพื้นฐานที่จำเป็นต้องใช้สำหรับการเล่นหลายประเภท
ซึ่งผู้เริ่มเล่นวอลเลย์บอลจำเป็นต้องเริ่มฝึกในพื้นฐานเหล่านี้
สำหรับในตอนนี้จะได้นำเสนอทักษะต่างๆที่จำเป็นสำหรับการเล่นวอลเลย์บอลในภาพรวมทุกทักษะ
เพื่อที่จะได้ทราบว่าแต่ละทักษะมีวิธีการและความสำคัญอย่างไร
รูปแบบทักษะพื้นฐาน
ซึ่งทักษะทั้งหมดจำเป็นต้องใช้ในการแข่งขัน
ในการฝึกนอกจากผู้เล่นจะสามารถปฏิบัติทักษะพื้นฐานทั้งหมดได้แล้วยังต้องสามารถเชื่อมโยงการเล่นในแต่ละทักษะได้ด้วย
สำหรับการเล่นเป็นทีมนั้นหากผู้เล่นไม่มีความชำนาญในแต่ละทักษะพื้นฐานที่เกี่ยวกับการเล่นวอลเลย์บอลก็จะทำให้การเล่นเป็นทีมทำได้ยาก
ทักษะที่ 1 การอันเดอร์วอลเลย์บอล
ลักษณะท่าทางเตรียมเล่นบอลของผู้เล่นมีลักษณะดังนี้
1. หงายมือทั้งสองข้าง 6. ให้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองชิดติดกัน
2. เอามือหนึ่งไปวางช้อนทับอีกมือหนึ่ง 7.กำมือทั้งสองข้าง
3.รวบมือให้นิ้วหัวแม่มือชิดติดกัน 8.นำมือทั้งสองข้างมาชิดกัน
4. ใช้มือใดมือหนึ่งกำหมัด 9.ให้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้างเสมอกัน
5. ใช้อีกมือหนึ่งโอบหมัด
ท่าการอันเดอร์
2 ย่อเข่าลงให้หัวเข่าเลยปลายเท้าเล็กน้อยก้มลำตัวให้หัวไหล่อยู่ในแนวระดับของเข่า
3 ยกส้นเท้าขึ้นเล็กน้อย
น้ำหนักตัวอยู่ที่ปลายเท้าทั้งสองข้าง
ตรงบริเวณโคนหัวแม่เท้า
ใต้ฝ่าเท้า
4 จับมือในท่าที่ถูกต้อง
แขนทั้งสองเหยียดตึง
ตามองที่ลูกบอล
ทักษะที่ 2 การส่ง
( เซ็ท )
การยกมือทั้งสองในการเซ็ต
1. ยกมือทั้งสองขึ้นประมาณหน้าผาก
มือทั้งสองห่างจากใบหน้าประมาณ
1 กำมือ (10 เซนติเมตร)
2. กางนิ้วออก
กางข้อศอกออกเล็กน้อย
ข้อศอกอยู่ระดับเสมอไหล่หรือสูงกว่าเล็กน้อย
กางนิ้วออกนิ้วงอเป็น
3. เคลื่อนที่ไปที่ลูกบอลจะตกให้ลูกบอลอยู่เหนือศีรษะบริเวณหน้าผาก
4. ย่อเข่า
ยกมือให้จุดสัมผัสบอลกับนิ้วมือห่างจากหน้าผาก 20 ซ.ม.
ทักษะที่
3 การตบลูกวอลเลย์บอล
1. การวิ่งเคลื่อนที่เข้าหาจุด
2. เตรียมกระโดดห่างจากจุดที่ลูกบอลตกประมาณ
1 ฟุต
3. กระโดดเหวี่ยงแขนทั้งสองไปข้างหลัง
น้ำหนักตัวไปข้างหลัง
เข่างอ
4. เหวี่ยงแขนทั้งสองขึ้นข้างหน้า
พร้อมกับถีบเท้าทั้งสองกระโดดลอยตัว
ขึ้นตรง
ๆ
5. แขนขวาเงื้อไปข้างหลัง
งอแขนเล็กน้อย
แบมือ
ตามองดูบอลตลอดเวลา
6. จังหวะที่จะตบ
ให้กดไหล่ซ้ายลง
พร้อมกับตบลูกบอลให้แรงส่งจากข้อมือ
ศอก
ไหล่
และลำตัว
7. ลงสู่พื้นด้วยเท้าทั้งสองในลักษณะย่อตัว
ทักษะที่ 4 การเสิร์ฟลูกวอลเลย์บอล
การเสิร์ฟเป็นการรุกวิธีหนึ่งการแข่งขันจะเริ่มจากการเสิร์ฟเสมอ
ลูกเสิร์ฟที่มีพลังและมีประสิทธิภาพ
สามารถ
ข่มคู่แข่งขันและเชิงความเป็นผู้คุมเกมการเล่นได้ด้วย
จุดประสงค์ของการเสิร์ฟอยู่ที่การทำคะแนนโดยตรงทำลายยุทธวิธีการรุกของฝ่ายตรงข้ามลดภาระการตั้งรับของฝ่ายตน
สร้างโอกาสที่ได้เปรียบในการตอบโต้ลูกเสิร์ฟที่ดีสามารถทำความหนักใจให้ฝ่ายตรงข้ามอันเป็นการทำลายขวัญและจิตใจของคู่แข่งขันทำให้เกิดความรวนเร
ขาดความสัมพันธ์ในการรุกได้ทางหนึ่งด้วย
ผู้เล่นจึงควรหาความชำนาญ
โดยการฝึกหัดเสิร์ฟด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งที่เหมาะสมและดีที่สุด
หรือตามความถนัดของผู้เล่นแต่ละคน
หลักสำคัญในการเสิร์ฟ มีดังนี้ ท่าทางในการเสิร์ฟ
1. ตำแหน่งการยืน
2. การโยนลูกบอล
3. การเหวี่ยงแขน
4. จุดที่มือกระทบลูกบอล
ท่าทางในการเสิร์ฟ
ก่อนที่ผู้เล่นจะเริ่มทำการเสิร์ฟต้องรู้ตัวเองว่าตนเองถนัดเสิร์ฟท่าทางแบบใดตามที่ได้ฝึกฝนมา
ถ้าเคยฝึกฝน
หรือถนัดเสิร์ฟลูกท่าทางแบบใดต้องเสิร์ฟลูกตามแบบนั้นตลอดการแข่งขัน
เพราการเปลี่ยนท่าทางการเสิร์ฟบ่อย
ๆ
ย่อมทำให้ประสิทธิภาพการเสิร์ฟเสียไป
ตำแหน่งการยืน
ก่อนที่จะเริ่มเสิร์ฟทุกครั้ง
ผู้เล่นต้องยืนตามจุดหรือตำแหน่งที่เคยฝึกซ้อมมา
มีผู้เล่นจำนวนมากที่ขาดความสังเกตในเรื่องนี้พอจับลูกบอลเข้ามายืนในเขตเสิร์ฟก็เสิร์ฟลูกไปตามใจตนเอง
การยืนห่างจากเส้นหลังใกล้หรือไกลเพียงใด
ยืนห่างจากมุมสนามมากน้อยเพียงใด
ก็ต้องยืนที่จุดนั้นตลอดทุกครั้งที่ทำการเสิร์ฟ
เพราะจะทำให้ความแรงความเร็วและทิศทางของลูกบอลเป็นไปตามเป้าหมายที่ต้องการและทำให้การเสิร์ฟมีผลเสียน้อยด้วย
การโยนลูกบอล
ความสูงขณะโยนลูกบอลขึ้นต้องสม่ำเสมอ
เช่น
ความสูงจากมือที่โยน
ประมาณ
3
– 4 ช่วงของลูกบอล ก็จะต้องโยนลูกบอลให้มีความสูงเช่นนี้ตลอดไปเพราะการโยนลูกสูงบ้างต่ำบ้าง
ทำให้แรงที่ใช้ตีและทิศทางของลูกขาดความแม่นยำ
นอกจากนี้การโยนลูกใกล้ตัว
ห่างตัวบ้าง
เอียงไปซ้ายบ้างขวาบ้าง
ก็ย่อมมีผลต่อการตีลูกบอลด้วย
การเหวี่ยงแขน
การเสิร์ฟให้ลูกบอลพุ่งไปตามทิศทางและมีความแรงตามที่ต้องการขึ้นอยู่กับการเหวี่ยงแขนด้วย
ผู้เสิร์ฟเคยเหวี่ยงแขนในลักษณะใด
มือห่างจากลูกบอลเท่าไรจะต้องทำอย่างนั้นทุกครั้งที่เสิร์ฟ
จึงต้องฝึกฝนการเหวี่ยงแขนให้คล้ายกับเครื่องจักรที่มีจังหวะการทำงานอย่างสม่ำเสมอ
จุดที่มือกระทบลูกบอล
ลักษณะของมือและจุดที่มือกระทบลูกบอลต้องเหมือนกันทุกครั้งที่ตีลูกบอลในท่านั้น
ๆ
ด้วย
เช่น
การแบมือตีด้านหลังตรงส่วนกึ่งกลางของลูกบอล
ก็
ต้องทำในลักษณะเช่นนี้ตลอดทุกลูกที่เสิร์ฟ
เพราะการออกแรงและจุดที่ตีลูกบอลแตกต่างกันก็ยอมทำให้ทิศทางของลูกบอลที่พุ่งออกไปแตกต่างกัน
ลักษณะของการเสิร์ฟ
การเสิร์ฟโดยทั่วไปแบ่งออกเป็น
2 ลักษณะใหญ่
ๆ คือ
1. การเสิร์ฟลูกมือล่าง
2. การเสิร์ฟลูกมือบน
ทักษะที่5การสกัดกั้น ( ป้องกันการตบ
)
1. ยืนแยกเท้าออกประมาณ
1 ช่วงไหล่
2. มือทั้งสองยกขึ้นกางฝ่ามือออก
3. งอเข่าเล็กน้อย
4. ศีรษะตั้งตรงมองไปข้างหน้า
5. กระโดดขึ้นเพื่อสกัดกั้นลูกตบของฝ่ายตรงข้าม